ประวัติ ของ เพอร์ฟูม (วงดนตรี)

2000-2003: ก่อตั้งวงและเปิดตัวในท้องถิ่น

ในปี ค.ศ. 2000, อายากะ นิชิวากิ (อาจัง), ยูกะ คาชิโนะ (คาชิยูกะ) และยูกะ คาวาชิมะ (คาวายูกะ) ได้ร่วมกันก่อตั้งวงเพอร์ฟูม ที่บ้านเกิดของพวกเธอที่ฮิโรชิมะ เพราะพวกเธอมีตัวคันจิในชื่อของพวกเธอเหมือนกัน (香) ซึ่งแปลว่า น้ำหอม แต่เมื่อก่อตั้งวงได้ไม่นานนัก คาวาชิมะก็ได้ลาออกจากวงเพื่อไปเรียนต่อ ถึงแม้ว่า เพอร์ฟูมจะเหลือเพียงสองคนในขณะนั้น แต่ทางวงก็ได้ตัดสินใจว่าจะดำเนินต่อไป แต่คุณแม่ของนิชิวากิ ได้แสดงความคิดเห็นว่าวงเพอร์ฟูมควรจะมีสามคนมากกว่าสองคน ในที่สุดก็ได้ อายาโนะ โอโมโตะ (โนจจิ) เข้ามาเป็นสมาชิกคนที่สาม ทั้งสามคนได้เข้าเรียนในโรงเรียนสอนการแสดงที่ฮิโรชิมะ (เป็นส่วนหนึ่งของ inaugural class ในปี ค.ศ. 1999)

ในปี ค.ศ. 2002, เพอร์ฟูมได้เปิดตัวที่ฮิโรชิมะด้วยซิงเกิลแรก คือ "Omajinai Perori" ตามด้วยซิงเกิลที่ 2 ได้แก่ "Kareshi Boshūchū" ในปีเดียวกัน โดยทั้งสองซิงเกิลนี้มีจำหน่ายเฉพาะที่ฮิโรชิมะภายใต้สังกัด Momiji Label ในตอนนั้นเองที่พวกเธอได้พบกับ มิกิโกะ นักออกแบบท่าเต้น ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นผู้ออกแบบท่าเต้นของวงเพอร์ฟูมมาจนถึงปัจจุบัน

2003-2005: ยุคอินดีกับสังกัด Bee-Hive Record

ในปี ค.ศ. 2003, หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนสอนการแสดงที่ฮิโรชิมะแล้ว ทั้งสามคนก็ได้ย้ายไปยังกรุงโตเกียว และได้อยู่ในสังกัด Bee-Hive Record ที่โตเกียวพวกเธอได้พบกับ ยาสึทากะ นาคาตะจากวงแคปซูล นักดนตรีผู้ซึ่งจะมาเป็นโปรดิวเซอร์เพลงให้กับพวกเธอ โดยในช่วงปี ค.ศ. 2003 ถึง ค.ศ. 2004 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่าย 3 ซิงเกิล ได้แก่ "Sweet Donuts", "Monochrome Effect" และ "Vitamin Drop" และได้มีคอนเสิร์ตเล็กๆถึง 3 ครั้ง

2005-2007: เปิดตัวในสังกัด Tokuma Japan Communications

ในวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 2005 เพอร์ฟูมได้เซ็นสัญญาเป็นนักร้องในค่าย Tokuma Japan Communications และได้เดบิวต์เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับซิงเกิลแรก "Linear Motor Girl" ต่อมาในปี ค.ศ. 2006 ได้วางจำหน่ายอีก 2 ซิงเกิล ได้แก่ "Computer City" และ "Electro World"

ในวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 2006 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายอัลบั้มแรก Perfume: Complete Best ซึ่งเป็นอัลบั้มรวมฮิต โดยมีเพลง "Perfect Star, Perfect Style" ซึ่งเป็นเพลงที่ได้แต่งขึ้นใหม่รวมอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย

2007-2008: ประสบความสำเร็จและอัลบั้ม GAME

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2007 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายซิงเกิลใหม่ที่ชื่อว่า "Fan Service: Sweet" โดยมีเพลงโปรโมทคือ "Chocolate Disco" และได้วางจำหน่ายซิงเกิลต่อมา คือ "Polyrhythm" ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน

สำหรับซิงเกิล "Polyrhythm" นั้น นับเป็นซิงเกิลที่ 10 ของวง โดยซิงเกิลนี้เปิดตัวในอันดับที่ 4 ของออริกอนชาร์ตรายวัน และเปิดตัวในอันดับ 7 ของออริกอนชาร์ตรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงเพอร์ฟูมที่มีซิงเกิลเปิดตัวในท็อป 10 ของออริกอนชาร์ต และมียอดขายมากกว่า 60,000 แผ่น จึงถือได้ว่า ซิงเกิลนี้เป็นซิงเกิลแรกที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องของวงเพอร์ฟูม

จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้เพอร์ฟูมได้มีโอกาสไปแสดงและปรากฏตัวตามรายการต่างๆ เช่น Hey! Hey! Hey! Music Champ, Music Station และ Liquidroom รวมถึงยังได้แสดงในงานเทศกาลดนตรี Summer Sonic music festival ซึ่งเพอร์ฟูมนั้นเป็นกลุ่มศิลปินไอดอลกลุ่มแรกที่ได้แสดงในเทศกาลดนตรีนี้

ในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2007 เพอร์ฟูมได้มีคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกที่ชื่อว่า "เคาท์ดาวน์ 2008" ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งวงมา

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายซิงเกิล "Baby Cruising Love / Macaroni" ซึ่งสามารถเปิดตัวได้ในอันดับที่ 3 ของออริกอนชาร์ต และทำยอดขายไป 50,000 ก็อปปี้ ต่อมาในเดือนเมษายนปีเดียวกัน ได้วางจำหน่ายอัลบั้ม "GAME" ซึ่งถือเป็นอัลบั้มเต็มชุดแรกของเพอร์ฟูม โดยทำยอดขายไปได้มากกว่า 450,000 แผ่น และอัลบั้มนี้ยังสามารถเปิดตัวในอันดับ 1 ของออริกอนชาร์ตได้สำเร็จ ซึ่งเพอร์ฟูมเป็นกลุ่มศิลปินแนวเทคโน-ป็อปที่สามารถเปิดตัวในอันดับ 1 ของออริกอนชาร์ตได้ในรอบ 25 ปี หลังจากที่วง Yellow Magic Orchestra ได้เปิดตัวในอันดับที่ 1 ของออริกอนชาร์ตกับอัลบั้ม "Naughty Boys" เมื่อปี ค.ศ. 1983

หลังจากที่ได้วางขายอัลบั้มชุดแรก เพอร์ฟูมก็ได้ประกาศทัวร์คอนเสิร์ต Perfume First Tour: Game โดยได้เปิดการแสดงใน 10 เมือง และบัตรเข้าชมนั้นขายหมดทุกรอบการแสดง

2008-2009: อัลบั้ม ⊿

ในวันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายซิงเกิล "Love the World" โดยเป็นเพลงแนวเทคโน-ป็อปเพลงแรกที่สามารถเปิดตัวที่อันดับที่ 1 ในโอริกอนชาร์ต[4][5] ต่อมาในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายดีวีดี Perfume First Tour "Game" โดยมียอดจำหน่าย 65,000 ชุด แซงศิลปินชื่อดังอย่าง โคดะ คุมิ และ นามิเอะ อะมุโระ[6]

เพอร์ฟูมได้ทำการแสดงที่ นิปปงบุโดกัง เมื่อวันที่ 6 และ 7 พฤศจิกายน โดยใช้ชื่อว่า "Budoukaaaaaaaaaan!!!!!" รวมทั้งยังได้ประกาศจัดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งต่อไปที่ Yoyogi National Gymnasium ในชื่อ "Disco!Disco!Disco!" อีกด้วย

ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายซิงเกิล "Dream Fighter" เปิดตัวในอันดับ 2 ออริกอนชาร์ต[7] นอกจากนี้ เพอร์ฟูมยังได้ถูกเชิญมาร่วมงานขาว-แดงประจำปี ค.ศ. 2008 ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของวงอีกด้วย[8]

ในวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 2009 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายซิงเกิลที่ 14 ใช้ชื่อว่า "One Room Disco" และสามารถเปิดตัวที่ 1 ในออริกอนชาร์ต ซึ่งเป็นซิงเกิลที่ 2 ของเพอร์ฟูมที่สามารถเปิดตัวในอันดับที่ 1 ของออริกอนชาร์ต[9] ต่อมาในเดือนเมษายน ก็ได้ออกรายการ Perfume's Chandelier House โดยทางวงเป็นพิธีกร[10] และในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2009 เพอร์ฟูมก็ได้วางจำหน่ายอัลบั้มชุดที่ 3 ในชื่อ Triangle (⊿) โดยมีคอนเซปต์ของอัลบั้มเป็นเพลงในสไตล์ยุค 80 อัลบั้มนี้ทำยอดจำหน่ายได้มากกว่า 300,000 ชุด[9]

2010-2012: กิจกรรมในต่างประเทศและอัลบั้ม "JPN"

ในปี ค.ศ. 2010 เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายซิงเกิลใหม่ ชื่อว่า "Fushizen na Girl/Natural ni Koishite" โดยซิงเกิลนี้เปิดตัวในอันดับที่ 2 ของออริกอนชาร์ต และเพลง Natural ni Koishite ยังถูกนำไปใช้เป็นเพลงโปรโมทโฆษณาของแบรนด์เครื่องแต่งกาย Natural Beauty Basic อีกด้วย และในปีเดียวกัน เพอร์ฟูม พร้อมด้วยศิลปินท่านอื่นๆ เช่น โคดะ คุมิ, Kobukuro ได้ถูกรับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม Pepsi NEX ซึ่งจะเป็นการนำเอาเพลงดังในอดีตมาร้องใหม่ในสไตล์ของแต่ละคน โดยเพอร์ฟูมได้เลือกเพลง "Lovefool" ของวงเดอะ คาร์ดิแกนส์

ในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2010, เพอร์ฟูมได้วางจำหน่ายซิงเกิลใหม่ชื่อว่า "VOICE" ซึ่งเปิดตัวในอันดับที่ 2 ของออริกอนชาร์ต ทำยอดขายได้มากกว่า 120,000 ก็อปปี้ โดยเพลง VOICE ได้ถูกนำไปใช้ประกอบโฆษณารถยนต์ Nissan ส่วนเพลง "575" ซึ่งเป็นเพลงที่อยู่ในซิงเกิลอัลบั้มนี้ก็ได้ถูกนำไปใช้ประกอบโฆษณาโทรศัพท์มือถือ KDDI Iida เช่นกัน และในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เพอร์ฟูมก็ได้วางจำหน่ายซิงเกิลใหม่ ซึ่งเป็นซิงเกิลลำดับที่ 17 โดยใช้ชื่อว่า "Nee" เปิดตัวในอันดับที่ 2 ออริกอนชาร์ต และมียอดจำหน่ายอยู่ที่ 85,000 ก็อปปี้

ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 เพอร์ฟูมได้ทำการแสดงคอนเสิร์ต โดยใช้ชื่อว่า "1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11" ซึ่งเป็นคอนเสิร์ตฉลองครบรอบ 10 ปี ของการก่อตั้งวง โดยคอนเสิร์ตจัดขึ้นที่โตเกียวโดม ซึ่งเพอร์ฟูมเป็นกลุ่มศิลปินหญิงที่ได้จัดคอนเสิร์ตที่โตเกียวโดมในรอบ 12 ปี หลังจากที่วง SPEED เคยจัดคอนเสิร์ตที่นี่เมื่อปี ค.ศ. 1998 บัตรเข้าชมการแสดงนั้นถูกขายหมดตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย โดยมีแฟนๆเข้าชมคอนเสิร์ตในครั้งนี้กว่า 50,000 คน

ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 เพอร์ฟูมได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานประกาศรางวัล เอ็มเน็ตเอเชียนมิวสิกอะวอดส์ ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศมาเก๊า โดยเพอร์ฟูมได้รับรางวัล "Best Asia Pop Artist Award" และได้ทำการแสดงในเพลง "Nee" และ "Chocolate Disco" ซึ่งถือเป็นการแสดงโชว์ในต่างประเทศครั้งแรกของเพอร์ฟูม

ในปี ค.ศ. 2010 เพอร์ฟูมได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานขาว-แดงประจำปี ซึ่งถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่เพอร์ฟูมได้ร่วมแสดงในงานนี้

เพลง "Polyrhythm" ได้ถูกเลือกให้เป็นเพลงประกอบในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง สายลับสี่ล้อ...ซิ่งสนั่นโลก ของ พิกซาร์ และอยู่อัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย และทางวงก็ได้ถูกเชิญไปร่วมงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2011 หลังจากนั้น เพอร์ฟูมได้แสดงในโฆษณาของคิรินโดยใช้เพลงใหม่ชื่อ "Glitter"

เมื่อวันที่ 5 กันยายน ค.ศ. 2011, เพอร์ฟูมได้ประกาศอัลบั้มที่ 4 ในชื่อ "JPN" โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 แต่ก่อนที่อัลบั้มนี้จะวางจำหน่าย ซิงเกิลใหม่ในชื่อ "Spice" จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 โดยซิงเกิลจะรวมอยู่ในอัลบั้มพร้อมกับเพลง "Glitter" จากเพลงประกอบโฆษณาของคิริน

2012: เปลี่ยนสังกัดและการขยายสู่ตลาดสากล

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์, ทางวงได้ประกาศย้ายต้นสังกัดมาอยู่ค่าย Universal Music Japan เพื่อเริ่มทำงานในต่างประเทศ และได้ประกาศวางจำหน่ายอัลบั้มล่าสุด, JPN, บน iTunes ใน 50 ประเทศ และทำการเปิดเว็บไซต์หลักในวันที่ 6 มีนาคม โดยซิงเกิลแรกในค่ายใหม่คือเพลง "Spring of Life" ซึ่งกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 11 เมษายน[11] และในวันเดียวกัน ทาง Universal Japan ได้ประกาศว่าทางวงจะอยู่ภายใต้สังกัดย่อยคือ Universal J เช่นเดียวกับต้นสังกัดเก่า โปรดิวเซอร์ยังคงเป็นยาสึทากะ นาคาตะ และผู้ออกแบบเสื้อผ้าก็ยังคงเป็น Meg คนเดิม[12]

เมื่อ 8 มีนาคม ทางวงได้ประกาศจะวางจำหน่ายซิงเกิล "Spring of Life" ในวันที่ 11 เมษายน โดยเพลงนี้ถูกใช้เป็นเพลงประกอบโฆษณา ‘คิริน จู-ฮาอิ เฮียวเกทสึ‘ และซิงเกิลนี้ยังเป็นซิงเกิลแรกที่วางจำหน่ายภายใต้ต้นสังกัดใหม่ของวงด้วย[13]

ทางวงได้รับเกียรติเป็นพิธีกรในงาน MTV Video Music Awards Japan 2012 ซึ่งจัดที่ มาคุฮาริ เมสเซะ ฮอลล์ ที่จังหวัดจิบะ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน[14]

ซิงเกิล "Spending All My Time" จะวางจำหน่ายในวันที่ 15 สิงหาคม โดยซิงเกิลจะมาพร้อมกับเพลง Hurly Burly และ Point ด้วย และประกาศสังกัดย่อยของวงในชื่อ "Perfume Records"

ทางวงยังได้เป็นตัวแทนจากประเทศญี่ปุ่นที่ได้ร่วมงาน ABU TV Song Festival 2012 ครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นที่ KBS Concert Hall ที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ค.ศ. 2012[15][16]

2013: ตีตลาดสากลและอัลบั้ม Level3

2014: เพอร์ฟูม เฟส!! 2014, ทัวร์ครั้งที่ 5 "Gurungurun" และ ทัวร์รอบโลกครั้งที่ 3

2015–2017: SXSW, ครบรอบ 15 ปี, "We Are Perfume", และ อัลบั้ม Cosmic Explorer

2018–ปัจจุบัน: Future Pop

แหล่งที่มา

WikiPedia: เพอร์ฟูม (วงดนตรี) http://www.abu2012seoul.com/s62.html http://www.bounce.com/article/article.php/4045/ALL... http://esckaz.com/2012/abu_tv.htm http://www.facebook.com/P.T.A.Thailand/ http://www.sanspo.com/geino/news/080715/gnj0807150... http://www.stardigio.com/channel/station.html http://www.tokyograph.com/news/id-3521 http://www.tokyograph.com/news/id-3939 http://www.tokyograph.com/news/id-4548 http://www.tokyohive.com/2012/03/perfume-reveals-d...